ในวันเสาร์ที่มีแสงแดดระลึกซึ้ง หม่อมเลี่ยงกับครอบครัวของเขาได้ตัดสินใจไปเยี่ยมภูมิประเทศที่ออกนอกเมือง。พวกเขาเดินบนถนนไม้แตกที่เลี้ยงดูสวยงามและสวยยอด และมีโอกาสสนุกสนานกับธรรมชาติด้วยกันทั้งหมด。
เดินทางไปยังสวนสาธารณะ
วันเสาร์ที่มีแสงอาทิตย์สว่างมาก ครอบครัวของเหมือนใจตั้งใจที่จะพาเหมือนใจไปอาหารหน้าที่ในสวนสาธารณะที่ใกล้ที่สุด。เหมือนใจรุ้ำไหวตัวขึ้นมาด้วยตะกร้าเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยของชิงชวนและเครื่องเล่นต่างๆ เมื่อออกไปจากบ้าน เหมือนใจก็กระชับกระชับขึ้นบนรถจักรยานและรีบรีบรีบหน้าด้วยทางหลอดไม้เขตรอบๆ
เหมือนใจ:“ว่ายว่างวันนี้ดีมากเลย! ผมสามารถขับรถจักรยานเร็วขึ้นได้ไหม แม่ครับ?”
แม่:“แน่นอนเหมือนใจ แต่ให้ระมัดระวังได้ ขับช้าๆ ได้ไหม?”
เหมือนใจและครอบครัวของเขาเดินร่องรอยข้ามทางหลอดไม้หลายๆ โดยสุดท้ายได้มาถึงพื้นที่เนินที่กว้างขวาง บนเนินมีหลายๆ คนกำลังแพงหน้าอาหารและเด็กๆ กำลังวิ่งวายกันบนหญ้า
เหมือนใจ:“แม่ ดูไหนนี้! มีเด็กๆ มากมายที่เล่นเกมหลอกหลอนนั้นยัง”
แม่:“ใช่นั้นเหมือนใจ นั่นเราก็จะหาที่นั่งอย่างสบายแล้วเหมือนใจก็จะไปเล่นด้วยเด็กๆ นั้นได้ไหม?”
เหมือนใจและครอบครัวของเขาก็หาที่นั่งสบายและเหมือนใจเอาของชิงชวนของเขาออกมาแบ่งกับแม่เพื่อร่วมแสดงความยินดี
เหมือนใจ:“แม่ ของนี้อร่อยไหม?”
แม่:“อร่อยเหมือนใจ คุณเป็นเด็กที่มีความระมัดระวังมาก”
ในระหว่างที่นั้น เหมือนใจสังเกตเห็นหนูน้อยหนึ่งจากต้นไม้กระโดดลงมาสนใจจับตามองพวกเขา
เหมือนใจ:“แม่ ดูหนูน้อยนี้! มันอาจจะหิวแค้นตามแล้วครับ?”
แม่:“อาจจะเป็นนั้นเหมือนใจ พวกเราอาจจะให้มันบิสกี่นึงไปได้”
เหมือนใจเอาบิสกี่ละแค่เดียวให้หนูน้อยๆ ซึ่งรับมันกับใจกลมกลืนและกินมันด้วยความดีใจ
เหมือนใจ:“แม่ หนูน้อยนี้ดูจะชอบพื้นที่หญ้านี้มาก”
แม่:“ใช่นั้นเหมือนใจ ที่นี่มีไม้โครกและดอกไม้มากมาย ในลักษณะนี้มันเป็นบ้านของสัตว์เลี้ยงลูกของพวกเรา”
พวกเขาก็ยังคงอาหารหน้าที่บนหญ้า และสนุกสนานกับรวมกันในธรรมชาติเพื่อชมเป็นพิงกับเมฆบนท้องฟ้าและผีด้วงที่ลอยเปลวปลอม
เหมือนใจ:“แม่ ผมอยากจะสร้างปราสาทบนหญ้านี้”
แม่:“นี่เป็นอิสระเหมือนใจ พวกเราจะลอกทำด้วยกันได้”
เหมือนใจและครอบครัวของเขาก็เริ่มทำปราสาทด้วยเสื่อหน้าที่หน้าประจำบ้าน บิสกี่และต้นไม้ ถึงแม้ปราสาทของพวกเขาจะไม่ใหญ่นัก แต่มันทำให้เหมือนใจสนุกกับมันมาก
เหมือนใจ:“แม่ ปราสาทนี้ของผมอยากที่สุด”
แม่:“ใช่นั้นเหมือนใจ ทุกที่ที่เราใช้ใจในกันเหล่านั้นเป็นสวรรค์ของเรา”
ในช่วงเวลาที่เหมือนใจอาหารหน้าที่ในสวนสาธารณะนี้ เหมือนใจไม่เพียงแค่สนุกกับอาหารและพลีกกันแต่ยังได้เรียนรู้อะไรมากมายเกี่ยวกับธรรมชาติและชีวิตด้วย ช่วงเวลาที่ดีที่สุดกับครอบครัวของเขานั้นกลายเป็นความทรงจำที่แสนทรงจำที่สุดในช่วงวัยเด็กของเหมือนใจ
หาคำศัพท์ซ่อนภาษาอังกฤษ
เรื่องราว:เด็กชื่อแท้น ที่อาศัยอยู่ที่หลังบ้านที่มีสวนสาธารณะใกล้เคียงกัน แท้นชอบไปเล่นในสวนตลอดเวลา และในวันหนึ่ง เขามีความตั้งใจที่จะหาคำศัพท์ซ่อนอยู่ในภาพต่างๆ ที่มีในสวน
บทสนทนา:– แท้น: “วันนี้ ฉันจะหาคำศัพท์ซ่อนในสวน!”- พี่สาวของแท้น: “อะไรที่ฉันสามารถหาซ่อนได้?”- แท้น: “ฉันจะหาภาพที่มีสัตว์น้ำเหนือนกัน! ฉันคิดว่ามันอาจมีคำศัพท์เกี่ยวกับทะเล.”- พี่สาวของแท้น: “ดีเลย! ฉันจะหาภาพที่มีดอกไม้! มันอาจมีคำศัพท์เกี่ยวกับฤดูกาล.”- แท้น: “ใช่แล้ว! ฉันจะหาภาพที่มีรถ! อาจมีคำศัพท์เกี่ยวกับการเดินทาง.”
หน้าที่หาคำศัพท์:– ภาพสัตว์น้ำ: ปลา,ทะเล,หน้าจอ- ภาพดอกไม้: ดอกไม้, เร็วในแรก, ฤดูหนาว- ภาพรถ: รถ, ถนน, การจราจร
สรุป:แท้นและพี่สาวของเขาได้มีความสนุกสนานในการหาคำศัพท์ซ่อนในภาพต่างๆ ของสวนสาธารณะ การหาคำศัพท์นี้ไม่เพียงแต่เป็นเล่นแต่ยังช่วยเพื่อเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่ทำให้เด็กทั้งหลายรู้และทำงานร่วมกันอย่างสนุกสนาน!
การแข่งขันตอบคำถาม
เรื่องเล่า: น้องหมาที่เรียนภาษาอังกฤษเพื่อช่วยคน
เด็กชื่อหมามา หมายน้องของหมามามา ตั้งใจที่จะเรียนภาษาอังกฤษเพื่อช่วยประชาชนในหมู่บ้านของเขา. หมามามาทำงานที่หน่วยกายภาพของหมามาและมีโอกาสได้พูดภาษาอังกฤษอย่างมาก。
ตอนที่ 1: หมามาเรียนภาษาอังกฤษ
หมามามาเรียนภาษาอังกฤษทุกวันหนึ่ง. เขาติดตามหลักสูตรทางอินเทอร์เน็ตและทำแบบฝึกหัดตัวเอง. หมามามารู้สึกยินดีที่สามารถพูดคุยกับหลายๆคนแล้ว。
ตอนที่ 2: หมามาช่วยประชาชน
หนึ่งวันหมามามาได้รับโอกาสที่จะช่วยประชาชนที่ต้องการแปลงภาษา. หมามามาช่วยแปลงภาษาอังกฤษเป็นภาษาท้องถิ่นของหมู่บ้านและได้รับความชื่นชมจากทุกคน。
ตอนที่ 3: หมามามาทำงานในหน่วยกายภาพ
หลังจากนั้น หมามามาก็กลับไปทำงานที่หน่วยกายภาพของหมามา. หมามามาใช้ภาษาอังกฤษเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยและบรรยายเรื่องราวแก่บรรดาเยาว์ที่มาเยี่ยม。
ตอนที่ 4: หมามามาได้รับรางวัล
หมามามาได้รับรางวัลจากหมามาและหน่วยงานเพื่อเข้าสู่รอบแข่งขันระดับหลักสูตร. หมามามารู้สึกยิินดีที่สามารถช่วยประชาชนและได้รับการยอมรับจากทุกคน。
สรุป:หมามามาได้สร้างความหวานแก่หมามาและหมามามาด้วยการเรียนภาษาอังกฤษและช่วยประชาชน. หมามามาได้แสดงว่าเมื่อมีความยั่งยืนและความอดทน ทุกอย่างเป็นไปได้!
การเล่นและการเรียนรู้
เมื่อเด็กๆ มีโอกาสเล่นเกมที่มีส่วนร่วมของการเรียนรู้ พวกเขาจะมีความสนุกสนานและเรียนรู้ง่ายต่อ ดังนั้น การผสมผสานการเล่นกับการเรียนที่ดูแลเด็กๆ จะมีประโยชน์มากมาย
การเล่นแบบจับคู่
- เกมการจับคู่ภาพและคำศัพท์: ใช้ภาพของสัตว์หรือวัตถุและคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับมัน ให้เด็กๆ จับคู่ภาพกับคำศัพท์ที่เหมาะสม
- เกมการจับคู่ภาพและเสียง: ใช้ภาพของสัตว์หรือวัตถุและเสียงที่พวกมันออกมา ให้เด็กๆ จับคู่ภาพกับเสียงที่เหมาะสม
การเล่นแบบตอบคำถาม
- เกมการตอบคำถามเกี่ยวกับสัตว์: มีคำถามเกี่ยวกับสัตว์และให้เด็กๆ ตอบคำถามด้วยคำศัพท์ที่เหมาะสม
- เกมการตอบคำถามเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม: มีคำถามเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว ให้เด็กๆ ตอบคำถามด้วยคำศัพท์ที่เหมาะสม
การเล่นแบบวาดรูป
- เกมวาดรูปและคำศัพท์: ให้เด็กๆ วาดรูปของสัตว์หรือวัตถุและแสดงคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับมัน
- เกมวาดรูปและเสียง: ให้เด็กๆ วาดรูปของสัตว์หรือวัตถุและแสดงเสียงที่พวกมันออกมา
การเล่นแบบทายภาพ
- เกมทายภาพจากคำศัพท์: ให้เด็กๆ ทายภาพที่เกี่ยวข้องกับคำศัพท์ที่มีในภาพ
- เกมทายภาพจากเสียง: ให้เด็กๆ ทายภาพที่เกี่ยวข้องกับเสียงที่มีในภาพ
ผ่านการเล่นเกมเหล่านี้ เด็กๆ จะได้รับโอกาสเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ง่ายต่อ
การเดินทางกลับบ้าน
เด็กชายชื่อมิกิและน้องสาวของเขา ลิลลี่ กลับบ้านหลังจากที่เดินทางไปสวนสัตว์เพื่อลากลั่นและเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ พวกเขาเดินหลังที่วิ่งและสังเกตเห็นดวงอาทิตย์ที่ตกอย่างเงาอ่อนแน่นตรงแก่บ้านของพวกเขา มิกิตื่นตะลึงและตอบคำของลิลลี่ว่า “เราต้องเร่งกลับบ้านเพราะมันอาจเป็นเวลาที่ต้องปิดบ้านแล้ว!”
ลิลลี่ยอมรับและพวกเขาเริ่มเดินทางกลับบ้านด้วยความสนุกสนาน พวกเขาหันหลังที่สวนสัตว์ที่เรียงตัวทั้งหมดและยังเห็นสัตว์ที่ยังไม่เคยเห็นก่อนหน้านี้ มิกิตั้งใจว่าเขาสามารถระบุชื่อของสัตว์ต่างๆ ได้ดีแล้ว และลิลลี่ยินยอมว่าน้องชายของเธอเป็นบุคคลที่มีความรู้ทางสัตว์มากมาย!
พวกเขาเดินไปตามเส้นทางที่พ่อแม่ของพวกเขาได้ติดตามไว้และมิกิยืนยันว่าเขาหาทางได้ถูกต้อง ลิลลี่บอกว่า “เรื่องที่ดีที่เราเรียนรู้วันนี้คือชื่อของสัตว์ต่างๆ และเรายังได้เรียนรู้ว่าเราต้องกลับบ้านทันทีเพื่อไม่ให้เวลาหลังเกินไป!”
ขณะเดียวกัน พวกเขายังสังเกตเห็นเฟิงก์ที่บินรอบๆ และมิกิบอกว่า “ฉันรู้ว่าเฟิงก์เรียกเสียง ‘เฟิง’ หรือ ‘เฟิงก์’ ฉันสามารถพูดเสียงนี้ได้แล้ว!” ลิลลี่ยินยอมว่าน้องชายของเธอกำลังเรียนภาษาอังกฤษดีขึ้นแล้ว!
ขณะเดินทางกลับบ้าน พวกเขายังเห็นเจ้าหมาที่แกะบินรอบๆ และมิกิบอกว่า “เจ้าหมาเรียกเสียง ‘วอ’ หรือ ‘วอว’ ฉันรู้แล้ว!” ลิลลี่ยอมรับและบอกว่า “เรา…